ขุนแผนเจ็ดท่า เครื่องรางให้แฟนหลงใหล


ขุนแผนเจ็ดท่า
ขุนแผนเจ็ดท่า เครื่องรางให้แฟนหลงใหล

ดูดวง ขุนแผน ตำรับเสน่ห์โบราณ ปู่หมอนาค เพชรแสงแก้ว ปัจจุบันพ่อปู่หมอนาคจอมขมังเวทย์ทางด้านมหาเสน่ห์อายุ 84 ปี สมัยหนุ่มๆมีภรรยามากถึง 29 คนไม่นับรวมกับที่ไปฝากรักไว้ตามจังหวัดต่างๆร่วมร้อยกว่าคน (อ้างอิงมาจาก หนังสือรวบรวมประวัติของพ่อปู่) สุดยอดศิลปะอมตะตลอดกาล เข้มข้นด้วยมวลสาร พิธีกรรมโบราณมีคนสร้างได้ในปัจจุบันน้อยมากครับหนึ่งในนั้นคือปู่หมอนาค

        ขุนแผนเนื้อพิเศษ องค์ครูรุ่นนี้สำหรับผู้ใหญ่อายุเกิน 20 ปี ท่านว่าเอาไว้ใส่ตอนร่วมรัก คู่รักจะติดใจครับ เพื่อชูรสความรักระหว่างคู่ครอง หรือต้องการสร้างเสน่ห์มัดใจแฟน หรือเพศตรงข้าม ซึ่งความแตกต่างของ ขุนแผน สาย พระกับฆราวาสแตกต่างกันยังไง ด้านพลังพุทธคุณพระเสกย่อมแรงกว่า แต่สิ่งที่พระเสกให้ไม่ได้คือการดลจิตดลใจให้คนเกิดความรัก (ฉันสามีภริยา) เพราะนั้นหมายถึงการอาบัติอย่างร้ายแรงเทียบเท่าการฆ่าสิ่งมีชีวิต

        ดังนั้นเครื่องรางสายฆราวาสจึงมีอนุภาพด้านเสน่ห์ ด้านการกระตุ้นให้เกิดความต้องการทางเพศมากกว่าแรงกว่า บางอย่างเสกจนชนิดที่เรียกว่าสุดๆไปเลย และหากผู้เสกที่เป็นฆราวาสเป็นผู้มีวิชาอาคมมาก และสร้างถูกต้อง ตามตำรา ขุนแผนย่อมมีพลังสูงมาก

        เนื้อนี้ผสมว่านมหาเสน่ห์ เข้มข้นมาก ใช้เพิ่มพลังเสน่ห์ให้ตัวเองดีมากว่านมหาเสน่ห์เหล่านี้เดิมนั้นมีพลังความเข้มขลังมหาเสน่ห์อยู่ในตัว เมื่อนำมาปลุกเสกและจัดทำในรูปของเครื่องราง ก็ยิ่งให้พลังมากขึ้นเป็นทวีคูณ ไม่เพียง ใช้เพื่อเพิ่มเสน่ห์ได้อย่างเดียวแต่แต่ยังสามารถบูชาเพื่อเป็นเมตตามหานิยมได้ดีอีกด้วย

        ขุนแผน7 ท่า 7 คาถา 7 มวลสาร การสร้างเครื่องรางประเภทกามสูตรนั้นผู้ที่จะสร้างได้สำเร็จต้องเป็นผู้ เชี่ยวชาญในหลักสูตรวิชาคาถาเชิงเมตตามหาเสน่ห์เป็นหลัก ครูอาจารย์ท่านแบ่งคาถาที่ใช้ในการจัดสร้างเป็นสองหลักสูตร เรียกว่าคาถาตับบน และ คาถาตับล่าง

        คาถาตับบนหมายถึงวิชาที่ว่าด้วยเรื่องการทำให้ผู้คนทั้งหลาย เกิดความนิยมชมชอบในตัวของผู้ใช้ด้วยประการทั้งปวง อาทิ เกิดความเมตตาเมื่อได้เห็นหน้าก็จะเกิดความสงสารเมื่อได้สบตาก็เกิดความ เพลิดเพลิดเมื่อได้ยินเสียง เจรจาก็จะระลึกนึกถึงถวิลหาเมื่อยามต้องพลัดพราก จากกันไปเป็นต้น

        ส่วนคาถาตับล่างนั้นจะหมายถึงวิชาที่ว่ากันด้วยเรื่องการทำให้เพศตรงข้าม ปรารถนาที่จะร่วมเสพสังวาสกับผู้ใช้ประการหนึ่ง ให้เกิดติดใจในรสชาติของกามารมณ์อันเกิดจากผู้ใช้ประการหนึ่ง ลุ่มหลงและมกมุ่นเสพสังวาสกับผู้ใช้ ชนิดที่เรียกว่าไม่รู้เบื่อรู้หน่ายอีก ประการหนึ่ง ที่กล่าวมาข้างต้นนี้รวมเรียกว่าลักษณะคาถากามสูตรซึ่งใช้

        สำหรับการปลุกเสก วัตถุมงคลตระกูลกามสูตรให้เกิดผลต่าง ๆ ทางเสน่ห์ให้ถึงที่สุดซึ่งจะยกตัวอย่างพระเวทประกอบการสร้างปลุกเสกเนื้อมวล สารทั้ง 7 อย่างอันเรียกว่าผงยาเสน่ห์สาวหลงดังต่อไปนี้ วิชาปรุงผงยา 7 ท่าขั้นพื้น ฐาน ท่านให้หาว่านยาที่มีลักษณะคุณวิเศษทางเมตตาประเภทตับบน 4 ชนิด ตับล่าง 3 ชนิดรวมทั้งหมด 7 ชนิดมารวมกันได้แก่

        1. ว่านนะหน้าทอง ดีทางเมตตาเสริมสง่าราศีแก่ผู้พบเห็น

        2. ว่านเสน่ห์สาวหลง ชื่อก็บอกสรรพคุณอยู่ในตัวอยู่แล้วว่า ดีทางเป็นที่ชื่นชมแก่สาว ๆ ที่ได้พบปะสัมพันธ์

        3. ว่านสาลิกาป่าช้า ว่านชนิดมีลักษณะคล้ายหัวนกตามตำรากล่าวไว้ว่าดีทางเมตตาเจรจาค้าขายยิ่งนัก

        4. ว่านเทพทั้งมวลได้แก่ว่านเทพรำลึก ว่านเทพรัญจวน ว่านเทพประชุมพร ว่านทั้งหมดนี้ชื่อของมันก็บอกอยู่แล้วว่าดีทางผูกใจคนให้วนเวียนรักใคร่ อยู่แต่กับเรา ว่านตระกูลเทพทั้งสามประเภทนี้ปู่หมอนาคกล่าวเสริมให้เป็น ความรู้ว่าไม่ว่า จะสร้างวัตถุมงคลครั้งใดก็ตาม ว่านทั้งสามสิ่งนี้เป็นสิ่งมงคลยิ่ง และกำหนดบังคับตายตัวทีเดียวว่าจะขาดว่านตระกูลเทพทั้ง 3 นี้เสียมิได้ทีเดียว ว่านยาอาถรรพณ์ตระกูลตับล่าง อาจารย์ท่านว่าให้หาของวิเศษให้ได้ 3 สิ่งคือ

        1. ว่านตระกูลดอกทองทั้งหมด ได้แก่นางดอกทองดีทางเสน่ห์ยั่วยวน นางตอแหลดีทางทำให้คนหลงเชื่อ นางตัณหา ดีทางเพิ่มรสชาติราคะให้คนติดใจ ทั้งหมดนี้เป็นตัวยาเรียกคนให้มาปรารถนาสังวาสกับเรา

        2. น้ำมันช้างย้อย ของสิ่งนี้หาได้ยากแต่ก็วิเศษยิ่งนักเพราะการที่ใครก็ตามจะเข้าไปขูดเอา น้ำมันของช้างพลายที่กำลังตกมันอย่างหนักออกมาได้ต้องมีอำนาจจิตสูงเข้าขั้น ทีเดียวที่เรียกว่าเข้าขั้นก็คือต้องสามารถสยบช้างบ้าให้ สงบลงได้ลองคิดเอา เองแล้วกันว่าถ้าคนที่มีกำลังจิตสูงขนาดนั้นสร้างของเพื่อสะกดคนให้ลุ่มหลง จะดีขนาดไหน

        3. น้ำมันทิพย์วิชานารีผล

        4. รังนกสาริกาหลงรัง ส่วนตัวยาสุดท้ายนี้ท่าจะหายากที่สุดเพราะท่านอาจารย์ให้หารังนกที่เกิดขึ้น เองตามธรรมชาติคือนกต้องไปคาบว่านเครือ (สาว)เขาหลงมาทำเป็นรังเท่านั้นยัง ไม่พอมันจะต้องตายคารังด้วยจึงจะเรียกว่ารัง นกสาริกาหลงรังของแท้ต้องตาม ตำรา ของทั้งสามนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่านยาเสน่ห์ 3 หมู่บ้าน ว่ากันว่าใครได้ไว้ครอบครองตัวยาทั้ง 3 นี้ครบถ้วนแล้ว ตลอดชีวิตนี้ไม่ต้องกลัวอดเรื่องรสเสน่หา อาจารย์ท่านเขียนไว้เป็นตำราถึง อย่างนั้น

        คาถาบูชาขุนแผน7ท่า
ถะเปตตะวา ญาติสา โลหิตติโย มังระชันตุ พูดถึงวิธีการสร้างขุนแผน7ท่า ในหลักปรัชญาแห่งการก่อกำเนิดสรรพสิ่งใดๆนั้นได้กล่าวไว้ว่าสรรพสิ่งใดใดก็ ดีจะถือกำเนิดขึ้นได้นั้นต้องมีองค์ประกอบสำคัญ ๒ ประการคือ

       1. พลังสัญลักษณ์แห่งผู้สร้างและผู้กระทำ เรียกว่า “ ธาตุพ่อ”
       2. พลังสัญลักษณ์แห่งผู้รับและให้กำเนิด เรียกว่า “ธาตุแม่”

        สองพลังสัญลักษณ์แห่งเพศผู้และเพศเมีย ( พ่อและแม่ ) นี้ เมื่อมารวมประสานกันจะทำให้เกิดพลังงานรูปแบบใหม่เรียกว่าพลังงานของผลแห่ง ความปรารถนา ( ความสุขสำเร็จและความสมหวังการบรรลุต่างๆ ) ด้วยเหตุอันนี้หากจะสร้างวัตถุอาคมใด รูปนั้นควรเป็นสัญญาลักษณ์แห่งผู้ให้กำเนิดพลังแห่งความสมหวัง 7 อย่างจึงเหมาะสมที่สุด แต่โบราณวิชาการทางมติไสยนิกายนับถือรูป ลักษณะของผู้ให้กำเนิดบิดามารดาเป็น ใหญ่ท่านได้กำหนดมงคลลักษณะท่าแห่งผู้สร้างไว้ 7 ลักษณะตามหลักอาถรรพณ์การสนองความต้องการของมนุษย์ไว้ โดยถือธรรมชาติแห่งการก่อกำเนิดของมนุษย์ใน 7 วัน แต่ละวัน จะมีพลังแห่งการบรรลุอันแรงกล้า 7 ประการดังนี้

        ท่ากามสูตรในวันอาทิตย์สำเร็จในยศถาบรรดาศักดิ์ อำนาจอัครมหาสถาน

        ท่ากามสูตรในวันจันทร์ สำเร็จในเสน่ห์ เย้ายวน รูปจริต ทุกประการ

        ท่ากามสูตรในวันอังคาร บังเกิดความกล้าหาญ โดดเด่นหน้าที่การงาน

        ท่ากามสูตรในวันพุธ สุดยอดบทกวี หัวดีติดต่อ เจรจา

        ท่ากามสูตรในวันพฤหัส รอบรู้เชิงปรัชญาสาขาความรู้ทั้งปวง

        ท่ากามสูตรในวันศุกร์ สมหวังในห้วงทรัพย์สิน โชคลาภเงินทอง

        ท่ากามสูตรในวันเสาร์ ทำลายอุปสรรค พลิกแพลงกลยุทธ์ชนะศัตรูทั้งปวง 7 ธาตุ ประสานร่วมกัน ก่อให้เกิดมงคลลักษณะพลังแห่งเทพบิดรและเทพมารดาเข้าปกปักษ์อุ้มชูอุปการะ รักษาบุตรผู้สักการบูชาให้ประสพสุขไร้ทุกข์ แผ้วพาน มงคลลักษณะทั้ง 7 ประการนี้เป็นสิ่งที่ครูอาจารย์แต่ดั่งเดิมเข้าใจในความหมาย และรู้จักศิลปะวิธีที่จะนำเอาขุมพลังแห่งรูปกามสูตรทั้ง 7 เหล่านี้ออกมาใช้ หากมองในแง่มุมแห่งปรัชญาการสร้าง วัตถุมงคลเหล่านี้จึงมิ ได้ตีความหมายเพียงว่าเป็นเครื่องรางที่นับถือกันทาง เสน่ห์แต่อย่างเดียวเท่านั้น

        หากเราศึกษาให้ถึงแก่นแท้ของบรรพบุรุษครูผู้สร้างแล้ว จะเข้าใจ ถึงศิลปะต่าง ที่มีมาแต่โบราณอีกด้วย เมื่อเข้าใจเหตุผลแห่งการสร้างแล้วที่นี้มา ศึกษาองค์ประกอบของมวลสารดูบ้าง ว่าแต่ละอย่างสำคัญอย่างไร มวลสารสูตรเสน่ห์สาวหลง เพื่อสร้างขุนแผน 7 ธาตุ ประกอบด้วยว่านยาและสิ่งอาถรรพณ์ที่มีพลังวิเศษส่งเสริมอานุภาพให้แก่ผู้ครอบครอง 7 ชนิด คือ

        1. ว่านนะหน้าทอง มีพลังมงคลเกิดเมตตาเสริมสง่าแก่ผู้พบเห็น

        2. ว่านเสน่ห์สาวหลง ชื่อก็บอกสรรพคุณ อยู่ในตัวอยู่แล้วว่า ดีทางเป็นที่ชื่นชมแก่สาวๆ ที่ได้พบปะสัมพันธ์

        3. ว่านสาลิกาป่าช้า ว่านชนิดนี้มีลักษณะคล้ายหัวนกตามตำรากล่าวไว้ว่ามีพลังทางส่งเสริมให้ผู้คน หลั่งไหลกันมาชื่นชมเมตตาในน้ำคำเจรจาติต่อค้าขายประเสริฐยิ่งนัก

        4. ว่าน ว่าเทพรำลึก ว่านเทพรัญจวน ว่านเทพประชุมพร ว่านทั้งหมดนี้มีอานุภาร่วมกันกล่าวคือต้องนำมาผสมร่วมกันจึงจะเกิดอานุภาพ ดลใจให้ผู้คนรักใคร่เมตตาาห่วงหาเอื้ออาทรตามธรรมชาติ

        5. ว่านตระกูลดอกทองทั้งหมด ได้แก่นางดอกทอง มีอำนาจทางทางเสริมเสน่ห์ยั่วยวนแก่ผู้พบเห็น นางตอแหล มีอำนาจทางทำให้ผู้ฟังหลงเชื่อ นางตัณหา มีอำนาจทำให้ผู้เข้าใกล้เกิดราคะติดใจ ทั้งหมดนี้เป็นตัวยาเรียกคนให้ มาปรารถนาสังวาสกับเรา

        6. น้ำมันช้างย้อย ของสิ่งนี้หาได้ยากแต่ก็วิเศษยิ่งนักเพราะต้องใช้อำนาจจิตสูงในการสะกดจิต ช้างพลายที่กำลังตกมันอย่างหนักให้สงบลง เพื่อที่จะเข้าไปนำน้ำมันของมันที่ออกมาจากรูขุมขนบริเวณหูออกมาผสมทำพระ เครื่อง รางรุ่นนี้ ถ้าอำนาจจิตสูงไม่เข้าขั้นอาจถูกช้างทำร้ายถึงแก่ชีวิตได้เดียวว่ากันว่า ลำพังแค่น้ำมันช้างย้อยเพียงอย่างเดียงว ใครพกติดตัวก็สามารถที่จะสยบจิตคนให้มาลุ่มหลงได้ดีถึงใจยิ่งนัก

        7. รังนกสาลิกาหลงรัง ตัวยาสุดท้ายนี้จะหายากที่สุกเพราะท่านอาจารย์ให้หารังนกที่เกิดขึ้นเองตาม ธรรมชาติคือนกต้องไปคาบว่านเครือ (สาว ) เขาหลงมาทำเป็นรังเท่านั้นยังไม่พอมันจะต้องตายคารังด้วยจึงจะเรียกว่ารังนก สา ริกาหลงรังของแท้ต้องตามตำราของสิ่งนี้นับถือกันมาแต่โบราณว่าเป็นส่วน ประสมสำคัญในการปรุงเสน่ห์ยาแฝดพญาเทครัว ว่ากันว่าใครได้ไว้ครอบครอง แล้ว ตลอดชีวิตนี้ไม่ต้องกลัวอดเรื่องรสเสน่ห์หา อาจารย์ท่านเขียนไว้ เป็นตำราถึงอย่างนั้น กรรมวิธีการปรุงยาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ท่านให้นำมวลสารทั้งหมดมาโขลกให้ละ เอียดแลัวนำมาผสมกับ แป้งหินร่ำในคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ

        จากนั้นให้ปั้นเก็บไว้เป็นแท่งดินสอ กระทั่งตัวยาหมด รอให้ได้ฤกษ์ เที่ยงคืน ( พระจันทร์ตรงศรีษะ ) จึงนำแท่งยามาเขียนยันต์ นะหน้าทองบนแผ่นกระดานชนวนขณะเขียนให้บริกรรมคาถานะเทพนิรมิต คาถานะลือชา สาลิกาโรงลิเกแตก แล้วนำมาปลุกเสกคาถารวมเป็นชุดเดียวกันเสกให้ได้ จำนวน 500 จบ ในวันพระจันทร์เต็มดวงของทุกเดือนจนครบ 7 เดือน

        เมื่อสำเร็จเรียกว่าผงยาเสน่ห์สาวหลงกลืนเมตตาคนแล จึงหาผงดิน 7 สถานมาผสม คือ ดิน 7 ท่าน้ำคนขึ้นลงมิขาด ดิน 7 โป่งอาถรรพณ์ ดิน 7 ยอดจอมปลวก ดิน 7 ต้นโพธิ์ใหญ่ ดินสถานคณิกา 7 แห่ง ดินทั้งหมดนี้ท่านให้ เอาาปลุกเสกด้วยคาถาปถมังแฝดกำเนิดเสียก่อนดังนี้ 1,009 จึงค่อยนำมาผสมกับผงที่กล่าวมาข้างต้นแล้วรอฤกษ์สุดท้ายของการทำพิธีเสกแป้ง สูตรผงยาเสน่ห์สาวหลงแล้วนำมากดพิมพ์ “ ขุนแผน 7 ธาตุ ” ดังกล่าวเมื่อ สำเร็จดีแล้วก็นำมาปลุกเสกอีก100,000 จบ(หนึ่งแสนจบ) หรือตราบจนพบเทพนิมิต 7 ประการคือ

        1. ปรากฏนิมิตมงคลพบพญานาครัดเทพบุตรหรือเทพธิดาบนกองวัตถุมงคล

        2. ปรากฏพญาจิ้งจกเผือกปี้กันสุดลูกหูลูกตา

        3. ปรากฏปลิงทองคำเกาะลึงค์และโยนีเทพเทวา

        4. ปรากฏนิมิตได้แหวนอัญมณี 7 สีลอยลงมาสวมนิ้วนาวเทพธิดาและเทพบุตร

        5. ปรากฏนิมิต เทพอุ้มนางฟ้าเปลือยอกมาวางอยู่ที่ตัก

        6. ปรากฏนิมิต พบเห็นกามเทพเสพสมเต็มท้องฟ้า

        7. ปรากฏนิมิตหมู่ทวยเทพจัดขบวนขันหมากมา เทพได้ประทานไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรคู่กันเสกเป่าลงไปในกองวัตถุมงคล เมื่อนิมิตได้บังเกิดนิมิตมงคลทั้ง 7อย่างนี้แล้วตามตำราสืบมาถือว่าเทพทเวาท่านจะปก ปักษ์พิทักษ์รักษาผู้ใดมี ไว้บูชาแนบกายจะเป็นเสมือนแก้ววิเศษเป็นที่รักที่ปรารถนาในโลกียเสน่หาขอให้ หมั่นปฏิบัติตามตำหรับการบูชาจะสมปรารถนาทุกประการ

ที่มาบทความ..love-amulets.com

บทความที่น่าสนใจ

กลับขึ้นด้านบน

Thaiza update: