วิจารณ์หนัง One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

ผู้กำกับภาพยนตร์: บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ (กำกับภาพยนตร์ Countdown และ ฉลาดเกมส์โกง)

ตัวอย่างภาพยนตร์ One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ เป็นภาพยนตร์รักดราม่าจาก GDH ที่จะเล่าเรื่องของ ‘บอส' บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ทำงานอยู่ที่นิวยอร์คและมีชีวิตที่น่าอิจฉา มีสาวๆ รายล้อม ในวันหนึ่งเขาได้รับโทรศัพท์จาก ‘อู๊ด’ เพื่อนเก่าที่ห่างหายไปนานเพื่อแจ้งข่าวร้ายว่าเขาเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อู๊ดขอให้บอสเดินทางด้วยกันเพื่อไปพบกับบรรดาแฟนเก่าทั้งหมดของเขาโดยหวังว่าจะคืนของและรำลึกความหลังครั้งเก่า และนี่ก็น่าจะเป็นเดินทางร่วมกันครั้งสุดท้ายของเพื่อนรักสองคนอีกด้วย
    
การเล่าเรื่องสำหรับเรื่องนี้ผมมองว่าอยู่ในขั้นดีครับ แต่ไม่ได้ถึงขั้นน่าประทับใจนัก ตัวหนังยังคงมีมาตรฐานที่สูงตามฝีมือของผู้กำกับบาสที่เคยฝากงานอย่าง ‘ฉลาดเกมส์โกง’ ไว้ในเวทีโลก จังหวะเล่าเรื่องลื่นไหล และมีลูกเล่นหลอกล่อให้เราสงสัยว่าเรื่องไหนจริงหรือไม่จริงอยู่ประมาณหนึ่ง และสิ่งที่ชอบอีกอย่างคือความเป็นธรรมชาติของบทพูด ทำให้นักแสดงต่อบทกันได้อย่างลื่นไหลไม่ติดขัด
    
แต่นั่นแหละครับ ถึงจะชมมามาก ท้ายที่สุดผมก็มองว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้ถึงขั้นน่าประทับใจอยู่ดี มันเป็นเพราะส่วนตัวน่ะค่อนข้างกลัวตั้งแต่ช่วงโปรโมตแล้วว่าพอหนังจะเล่าเรื่องที่ตัวเอกเป็นมะเร็งเนื้อเรื่องอาจจะเชย เดาง่าย เพราะเราก็เห็นแนวนี้กันมามากมายแล้ว และรู้ว่ามันจบได้ไม่กี่แบบ พอดูเรื่องนี้จบแล้วก็เป็นไปตามนั้นเลยครับ รู้สึกว่าเชยจริง เนื้อหาไม่ได้พาเราไปไหนไกลเท่าไหร่ ยังคงเล่าเรื่องการใช้ชีวิตให้คุ้มเหมือนเดิม แม้ระหว่างทางจะซอกแซกหลอกล่อพาเราไปเจอประสบการณ์ชีวิต ประสบการณ์รักของใครหลายคน ต่อให้พยายามหักมุมเนื้อเรื่องของบางตัวละครบางช่วงก็ตามที สุดท้ายก็วนมาแบบเดิมเป๊ะ ประเด็นเดิมเป๊ะ
    
อีกส่วนหนึ่งที่ผมมองว่าทำให้หนังทำงานได้ไม่เต็มที่ก็คือเนื้อเรื่องนั้นใส่ใจทุกตัวละครมากไปครับ เรื่องราวมันมีเยอะแยะมากมายหลายเหตุการณ์ มากคนมากความ จนผมในฐานะคนดูนี่ทำตัวไม่ถูกว่าจะโฟกัสหรือวางความรู้สึกไว้ที่ตรงไหนดี คนโน้นก็มีเรื่องดราม่า คนนี้ก็มีเรื่องดราม่า มันดูเป็นมวลรวมความเจ็บปวดแต่กลับกระจายฟุ้งอยู่บนอากาศ ไม่กระทุ้งกระแทกเข้าที่ตัวละครไหนหนักที่สุดสักคน พอเป็นอย่างนี้ก็ยิ่งส่งผลให้ตอนจบหนังไม่อิมแพ็คเท่าที่ควร เพราะหนังดันไปจบเนื้อเรื่องกับคนที่หนังไม่ได้ใส่ใจเรื่องปูมหลังของเขามากพอด้วยซ้ำ คือแค่รู้สึกว่ามันขยี้กว่านี้ได้อีก
    
การแสดงสำหรับเรื่องนี้คือแทบจะไร้ที่ติเลยครับ นี่เป็นหนังที่นักแสดงทุกคนวางอารมณ์และนำเสนอมันออกมาได้อย่างถูกต้องสมบทบาทมากๆ โดยเฉพาะน้องต่อกับไอซ์ซึนี่คือที่สุดครับ ทั้งการต่อบท การส่งอารมณ์ถึงกัน และการแสดงแบบเดี่ยวๆ ล้วนเก็บทุกอิริยาบถได้อย่างอยู่หมัด สมแล้วกับการถูกเลือกมาเป็นนักแสดงนำเรื่องครับ กับโปรเจ็คโกอินเตอร์ขนาดนี้ด้วย



โปรดัคชั่นโดยภาพรวมสำหรับเรื่องนี้ถือว่าสุดยอดครับ โดยเฉพาะหากมองว่านี่เป็นหนังรักดราม่าจากไทยด้วย จัดเต็มทั้งเรื่องการจัดฉากเพื่อการถ่ายทำและการหาสถานที่ นำเสนอได้อย่างยอดเยี่ยมจนทำให้รู้สึกได้ชัดถึงเสน่ห์ของทุกฉาก ทุกจังหวัด ทุกมุมของประเทศไทย ยิ่งเสริมความสวยงามจากการถ่ายภาพจัดแสงเข้าไปด้วยก็ยิ่งเสริมให้ทุกฉากเด่น และเข้ากับอารมณ์สุขและเศร้าของทุกเหตุการณ์ได้อย่างทวีคูณ ตรึงใจ มีอารมณ์เศร้าและเหงาปนอุ่นนิดๆ อบอวลอยู่ตลอดทั้งเรื่อง แถมช็อตทุกช็อตก็ถูกคิดมาอย่างดีเพื่อเสริมความหวือหวาในบางช่วง จังหวะสนุกในบางครั้ง และมีลูกเล่นเทคนิคพิเศษบ้าง ก็ทำให้หนังไม่น่าเบื่อได้
    
ด้านดนตรีประกอบและเพลงประกอบเองก็สามารถส่งเสริมอารมณ์ของภาพยนตร์ทั้งเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม มีทั้งความอินเตอร์และความไทยๆ ผสมปนเปกันอย่างใกล้ชิด อาจมีบางเพลงที่ทำให้รู้สึกแปลกๆ บ้างแต่ก็พอให้อภัยได้ ส่วนตัวไม่ชอบเพลงที่ผู้หญิงร้องหวีดหวิวเท่าไหร่ เพลงที่หนังชอบใช้ตอนฉากเศร้าน่ะ แต่ก็มีเพลงหนึ่งที่ผมชอบมากๆ เลยก็คือเพลงประกอบหลักของเรื่องอย่าง ‘Nobody Knows’ เลยครับ ติดหูจริง เข้ากับเรื่องมากด้วย
    
สรุปโดยภาพรวมแล้ว One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ จึงเป็นภาพยนตร์รักดราม่าของไทยที่อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ไม่ได้ถึงขั้นน่าประทับใจ เรื่องเล่ามีคุณค่าแก่การชีวิต บทภาพยนตร์ค่อนข้างดี บทพูดเยี่ยม จังหวะการเล่าเรื่องลื่นไหล การแสดงของนักแสดงทุกคนยอดเยี่ยม ข้อเสียมีเพียงบทสรุปเรื่องนั้นเดาง่าย และค่อนข้างเชยมากในหนังสไตล์นี้ ขณะเดียวกันตัวละครก็ดูจะมีมากเกินโฟกัส ให้เวลาแต่ละคนพอสมควรด้วย ทำให้วางอารมณ์ไม่ค่อยถูกว่าเราควรจะอินกับช่วงไหนกันแน่ โปรดัคชั่นโดยภาพรวมถือว่าจัดเต็มมากหากมองว่าเป็นหนังรักไทยสายดราม่า จัดฉากและจัดหาสถานที่ถ่ายทำได้ดีเยี่ยม สวยงาม น่าจดจำ และจัดแสงถ่ายภาพให้เรื่องมีบรรยากาศที่ติดตรึงใจมาก ดนตรีประกอบและเพลงประกอบเองก็ช่วยเรื่องไว้พอสมควร...ใครเป็นคอหนังรักดราม่าสุขเศร้าเคล้าน้ำตาครบรสจาก GDH ชื่นชอบหนังไทยที่จัดเต็มเรื่องโปรดัคชั่น ชื่นชมฝีมือการแสดงของดาราไทย เชิญชมในโรงภาพยนตร์ได้เลย!

ปล.ปิดท้ายด้วยสิ่งที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ละกันครับ...เพลงประกอบภาพยนตร์

วิจารณ์หนัง  One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ Review by Bombo Aruzo