ระทึกกลางดึก! เพลิงไหม้เผาโบสถ์ร้อยยอด วัดไผ่โรงวัว คาดไฟฟ้าลัดวงจร

 

      ผู้สื่อข่าวภูมิภาครายงานว่า วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 เกิดเหตุไฟไหม้โบสถ์ วัดไผ่โรงวัว วัดเก่าแก่เมืองสุพรรณบุรี เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยร.ต.อ.วินัย เกิดบุญศรี พนักงานสอบสวน สภ.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โบสถ์ร้อยยอดวัดไผ่โรงวัว หมู่ 11 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองสองพี่น้อง รถดับเพลิง อบต.เนินพระปรางค์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี

      ที่เกิดเหตุบริเวณชั้นล่างของโบสถ์ มีพระ ชาวบ้าน ใช้สายยาง ถังเคมีดับเพลิงช่วยกันดับแต่ไม่สามารถดับได้ เนื่องจากชั้นล่างเป็นที่เก็บของเพลิงไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเพราะมีแผ่นปูนหล่นลงมา

 

 

      จากการสอบถาม นายสมบัติ ศรีอาด อายุ 66 ปี กรรมการวัดที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ออกตรวจความเรียบร้อย ภายในบริเวณวัดตามปกติ เมื่อมาถึงโบสถ์ร้อยยอด เห็นมีเปลวเพลิงกำลังไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของโบสถ์ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าอาวาสทราบก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ระหว่างนั้นพระเณรในวัดรู้ว่าเกิดเหตุไฟไหม้จึงออกมาช่วยกันใช้สายยางฉีดน้ำเพื่อดับไฟ แต่ไม่สามารถดับได้ เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีกองวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงกองอยู่ กระทั่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงและรีบฉีดน้ำควบคุมและสามารถดับเพลิงไว้ได้ทันก่อนที่จะเสียหายมากกว่านี้

      ด้าน พระทองม้วน อายุ 62 ปี พระลูกวัดซึ่งเป็นผู้ดูแลอยู่ที่อุโบสถร้อยยอด เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปร่วมสวดอภิธรรมศพที่ศาลากระทั่งมีคนไปแจ้งว่าไฟไหม้ที่โบสถ์จึงรีบมาดูก็เห็นไฟกำลังลุกไหม้ จึงตะโกนเรียกพระเณรและชาวบ้านที่มาร่วมงาน ให้มาช่วยกันดับไฟ ปกติชั้นล่างจะเป็นที่เก็บของเก่า เช่นไม้เก่า แผ่นป้ายงานของวัด และมีสายไฟฟ้าที่ต่อใช้กระแสไฟอยู่บ้าง ส่วนด้านบนของโบสถ์คาดว่าคงไม่ได้รับความเสียหาย 

 

      สำหรับสาเหตุ พระทองม้วน กล่าวว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง

      บริเวณชั้นล่างของโบสถ์ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บของและประกอบพิธีกรรมเดินลอดฐานโบสถ์ ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด แต่โชคดีเพลิงยังไม่ลามขึ้นสู่ชั้น 2 ที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา โดยไม่มีผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนจะได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดครั้ง