อดีตทหารพรานคลั่งยา ถือมีดพร้าไล่ฟันชาวบ้าน หนีไปซุกกระท่อม

 

 

      ผู้สื่อข่าวภูมิภาครายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำปำ จ.พัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เข้าล้อมกระท่อมไม่มีเลขที่กลางทุ่งนา ท้องที่ ม.6 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง หลังได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน ขอความช่วยเหลือเหตุ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี มีอาการคลุ้มคลั่งใช้มีดพร้าไล่ฟันชาวบ้าน จนหนีกันชุลมุน ก่อนหนีเข้าไปกบดานในกระท่อมหลังดังกล่าว

      เจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ได้เข้าไปเพื่อเจรจา แต่กลับถูกนายเอตะโกนด่า การเข้าควบคุมตัวเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากมีทางเข้าเพียงทางเดียว ทางเจ้าหน้าที่จึงติดต่อญาติเข้าไปเจรจา จนนายเอร้องขอชาเย็นพร้อมกล้วยแขก จึงเข้าควบคุมตัวได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีการขัดขืน

 

 

      จากการสอบถาม นายวันใหม่ ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า นายเอเป็นอดีตทหารพราน หลังป่วยเป็นจิตเวชถูกส่งตัวกลับมารักษาตัวที่บ้านนานประมาณ 5 ปี ช่วงกลับมารักษาตัวนายเอเสพยาเสพติด ล่าสุด เมื่อเช้าเกิดอาการคลั่งใช้มีดพร้าไล่ฟันชาวบ้าน ชาวบ้านวิ่งหนีกระเจิง โดยก่อนหน้านี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช แต่ยังเสพยาอาละวาดอยู่บ่อยครั้ง ตามปกติจะอยู่บ้านเดียวกับพี่สาว ซึ่งห่างจากกระท่อมประมาณ 200 เมตร แต่นายเอมักจะมานอนเก็บตัวคนเดียวในกระท่อมดังกล่าว

 

 

      ด้าน น้าสาวของนายเอ เล่าว่า นายเอเริ่มคลุ้มคลั่งตั้งแต่เมื่อวาน ถือมีดพร้าไล่ฟันชาวบ้าน เพราะเดินไปไหนจะถือมีดพร้าอยู่ตลอด จนตนต้องห้ามชาวบ้านที่เข้าไปหาปลาและนำวัวไปเลี้ยง ให้หลีกเลี่ยงเพราะนายเอเริ่มมีอาการ จนกระทั่ง เพิ่งทราบว่าวันนี้ไล่ฟันชาวบ้านอีก พอมีอาการเขาจะจำใครไม่ได้ แม้กระทั่งพี่น้องจะไล่ฟันตลอด 

 

      ตนเคยทราบว่า นายเอเสพยาบ้า แต่ตนไม่เคยเห็นเพราะบ้านห่างกัน และไม่ค่อยเข้ามาคลุกคลี ก่อนหน้านี้ถูกเจ้าหน้าที่จับส่งไปบำบัด หลังจากหายดีก็กลับมาอยู่บ้านตามปกติประมาณ 2 – 3 ปี คาดว่าช่วงนี้ขาดยา เพราะไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ตนไม่เชื่อว่านายเอจะคลั่งเพราะเสพยา เนื่องจากไม่มีงานทำคงไม่มีเงินไปเสพยา แต่ตนคิดว่าเป็นผลพวงมาจากตอนที่ไปเป็นทหารพรานป่วยเป็นจิตเวชจนถูกส่งตัวกลับ ทางญาติพร้อมที่จะนำตัวไปบำบัดอีกครั้ง หากทิ้งไว้ชาวบ้านจะไม่ได้รับความปลอดภัยถึงขั้นเสียชีวิตได้

     อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเอส่งโรงพยาบาล เพื่อรับการบำบัด จากการตรวจสอบภายในกระท่อมไม่พบอาวุธมีดพร้าและสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด