เทียบข้อดี-ข้อด้อยระหว่าง รถ EV กับ รถน้ำมัน ก่อนซื้อ

เทียบข้อดี-ข้อด้อยระหว่าง รถ EV กับ รถน้ำมัน ก่อนซื้อ

"EV" หรือ Electric vehicle นับเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในชั่วโมงนี้ เมื่อเทรนด์ยานยนต์ทั่วโลกมุ่งหน้าสู่เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในประเทศไทยเอง รถยนต์ EV ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งแรงหนุนจากเทรนด์ที่กำลังมาแรง การแข่งขันที่มากขึ้นของบริษัทยานยนต์ รวมถึงมาตรการจากรัฐบาลที่สนับสนุนการใช้รถ EV ผ่านนโยบายในการลดภาษี ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นบ้างแล้ว ใน แต่ในมุมของผู้บริโภคหรือคนใช้รถเอง ก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีมานานแล้ว

ลองมาเปรียบเทียบข้อดี ข้อด้อย และความสิ้นเปลืองพลังงาน ระหว่างรถ EV และรถที่ใช้น้ำมัน เพื่อประกอบการพิจารณาว่ารถประเภทไหนเหมาะกับเรามากกว่า และมีปัจจัยอะไรที่ต้องให้ความสำคัญบ้าง

แหล่งพลังงาน

รถยนต์ไฟฟ้า : ชาร์จไฟได้จากที่บ้านโดยการสามารถติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย (ค่าติดตั้งเริ่มต้น 11,000 บาท) หรือใช้บริการที่สถานีชาร์จต่างๆ ซึ่งระยะเวลาในการชาร์จจะยังใช้เวลาค่อนข้างนานขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องชาร์จ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ และกำลังไฟฟ้าของเครื่องชาร์จ

รถยนต์น้ำมัน : เติมน้ำมันได้ที่สถานีบริการน้ำมันทั่วไป ใช้เวลาในการเติมน้ำมันไม่นาน

ความสิ้นเปลืองพลังงาน

รถยนต์ไฟฟ้า: เฉลี่ย 0.6-1 บาท ต่อกิโลเมตร

รถยนต์น้ำมัน: เฉลี่ย 3 บาท ต่อกิโลเมตร

ทั้งนี้ ค่าความสิ้นเปลืองข้างต้นเป็นค่าเฉลี่ยเบื้องต้นที่เปลี่ยนแปลงได้จากหลายปัจจัย เช่น ขนาดเครื่อง รุ่นรถ อายุการใช้งาน การขับขี่ เป็นต้น

การซ่อมบำรุง
รถยนต์ไฟฟ้า : ชิ้นส่วนทั้งคันน้อย ซ่อมบำรุงได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ค่าแบตเตอรี่ค่อนข้างสูงหากจำเป็นต้องเปลี่ยนหรือมีปัญหา

รถยนต์น้ำมัน : ใช้อะไหล่จำนวนที่มากกว่า และเครื่องยนต์มีความซับซ้อนกว่ารถแบบใช้ไฟฟ้า ทำให้อาจจะซ่อมจุกจิกกว่า

สมรรถนะของรถ
รถยนต์ไฟฟ้า : เครื่องยนต์เงียบ และมีอัตราการเร่งดีกว่า

รถยนต์น้ำมัน : มีเสียงดังกว่า และมีการกระชากจากเครื่องยนต์

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
รถยนต์ไฟฟ้า : ไม่ปล่อยมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

รถยนต์น้ำมัน : ปล่อยมลพิษหากเป็นรถยนต์รุ่นเก่า หรือได้รับการดูแลที่ไม่ถูกต้อง