ข่าวล่าสุด

:

ออสเตรเลียเผยผลวิจัย แทบไม่มีสถานที่ในโลกปลอดมลพิษทางอากาศ

Air pollution Pm2.5                                             New Delhi / Photograph: Jewel Samad/AFP/Getty Images


ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาตินำโดยมหาวิทยาลัยโมนาชของออสเตรเลีย เผยผลการศึกษาด้านมลพิษทางอากาศที่จัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก โดยพบว่าตลอดช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา มีประชากรโลกเพียง 0.001% ได้รับอากาศบริสุทธิ์ที่มีมลพิษในระดับต่ำ ทำให้ปัจจุบันแทบจะไม่มีสถานที่แห่งใดในโลกปลอดจากหมอกควันและฝุ่นพิษอีกแล้ว

ผลวิจัยดังกล่าวซึ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ The Lancet Planetary Health ระบุว่าข้อมูลระหว่างปี 2000 - 2019 ชี้ว่าคุณภาพอากาศทั่วโลกมีแนวโน้มย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งปี 2019 เมืองต่าง ๆ ทั่วโลกมีจำนวนวันที่ค่ามลพิษรวมทั้งฝุ่นละเอียด PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานบ่อยถึง 70% หรือเกือบตลอดทั้งปี


ทั่วทุกภูมิภาคของโลกยังมีค่าเฉลี่ยความหนาแน่นของฝุ่นพิษดังกล่าวถึง 32.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ถึงสองเท่า

มีการติดตามเก็บข้อมูลจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ 5,446 แห่ง ใน 65 ประเทศ ตลอดระยะเวลาร่วม 20 ปี ทำให้พบว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกมีสภาพการณ์ด้านมลพิษทางอากาศเลวร้ายที่สุดในโลก โดยมีค่าเฉลี่ยความหนาแน่นของฝุ่นพิษ PM 2.5 สูงถึง 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในแต่ละปี รองลงมาคือภูมิภาคเอเชียใต้ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของ PM 2.5 อยู่ที่ 37.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนอันดับสามคือภูมิภาคแอฟริกาเหนือที่ 30 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนของโลกที่ปริมาณของฝุ่นพิษยังคงไม่สูงมากนัก โดยออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มีค่าเฉลี่ยของ PM 2.5 ตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเพียง 8.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามมาด้วยภูมิภาคโอเชียเนียและอเมริกาใต้ที่ 12.6 และ 15.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรตามลำดับ

 

  ที่มา  BBC Thai

 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

กลับขึ้นด้านบน

Thaiza update: