คาซัคสถาน ขึ้นแท่น แหล่งขุดเงินดิจิทัลใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ
1,536
คาซัคสถาน กลายเป็นประเทศที่เป็นแหล่งที่ตั้งของเหมืองขุดเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี ใหญ่เป็นสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ
Photo : enegix.net
คาซัคสถาน กลายเป็นประเทศที่เป็นแหล่งที่ตั้งของเหมืองขุดเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) ใหญ่เป็นสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ หลังเพื่อนบ้านอย่าง "จีน" สั่งห้ามขุดคริปโตฯในประเทศ เมื่อปีที่แล้ว
การขุดคริปโตเป็นกระบวนการที่สนับสนุนเงินดิจิทัลหลายสกุล เช่น บิทคอยน์, อีเธอเรียม (Ethereum) และไลท์คอยน์ (Litecoin) โดยเงินดิจิทัลเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของหน่วยงานกลาง หรือสถาบันการเงินใด ๆ แต่การทำรายการชำระและโอนเงินในแต่ละครั้งจะได้รับการตรวจสอบโดยเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ที่ช่วยกันทำอย่างสมัครใจ
กระบวนการคำนวณมีความซับซ้อนมาก จึงต้องใช้กำลังคอมพิวเตอร์จำนวนมาก และเพื่อดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาช่วย ระบบก็จะให้รางวัลตอบแทนเป็นบิทคอยน์
ธุรกิจขุดคริปโตเกิดขึ้นอย่างมากมายในคาซัคสถาน โดยปัจจุบันมีสัดส่วนราว 18% ของเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ที่ช่วยขับเคลื่อนเงินดิจิทัลสกุลนี้ โดยอุตสาหกรรมขุดคริปโตที่นี่เริ่มเติบโตขึ้นในปี 2019 เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าปริมาณมหาศาลและราคาถูกในคาซัคสถาน รวมทั้งนโยบายที่เป็นมิตรของรัฐบาล
แต่ในฤดูร้อนปี 2021 ธุรกิจนี้ก็เฟื่องฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อจู่ ๆ ทางการจีนห้ามการขุดคริปโตในประเทศ ส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ พากันย้ายการลงทุนมายังคาซัคสถาน และทำให้ "เหมืองคริปโต" ที่มีอยู่รองรับความต้องการที่ไหลบ่าเข้ามาไม่ไหว จนต้องสร้างสถานที่รองรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการขุดคริปโตแห่งใหม่ ๆ เพิ่ม
อย่างเช่น เหมืองขุดเงินดิจิทัลในเมืองอัลมาตี ของ "โมลดีร์ ชูบาเยวา" นักธุรกิจหญิงวัย 35 ปี ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้เป็นอย่างมาก เพราะบริษัทของเธอเติบโตจนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดของประเทศ
หรือเหมืองคริปโตอีกแห่ง ที่อยู่ห่างจากเหมืองของโมลดีร์ ออกไปราว 800 ไมล์ ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวห่างไกลจากชุมชน และถูกใช้เป็นสถานที่ตั้งเหมืองคริปโตขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของบริษัทเอเนจิกซ์ (Enegix) โดยภายในติดตั้งคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงนับพันนับหมื่นเครื่องพากันส่งเสียงในขณะที่พัดลมระบายความร้อนขนาดเล็กในเครื่องกำลังทำงานอย่างสุดกำลัง ส่วนที่อีกฟากก็มีพัดลมขนาดใหญ่ช่วยทำงานอีกแรง
อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจการขุดเงินดิจิทัลที่กำลังเฟื่องฟูนี้จะช่วยสร้างงาน และรายได้ให้แก่คาซัคสถาน แต่ "เหมืองขุดคริปโต" ที่ต้องใช้ไฟฟ้ามหาศาลเหล่านี้ กำลังสร้างภาระหนักให้โรงไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหินของคาซัคสถาน และทำให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มมากขึ้น
ดัชนีการใช้ไฟฟ้าขุดบิทคอยน์ของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ประเมินว่า อุตสาหกรรมนี้ใช้พลังงานมากกว่าการใช้ไฟฟ้าของบางประเทศ เช่น ยูเครน และนอร์เวย์

เดนา เยียร์โมลโยนก ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศระบุว่า คาซัคสถานมีแหล่งพลังงานหมุนเวียนอยู่เพียง 2% เท่านั้น เธอตั้งข้อสงสัยว่า ความมั่งคั่งจากการทำขุดคริปโตจะคุ้มค่ากับความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมหรือไม่
"ทุกวันที่ฉันออกจากบ้าน ฉันก็จะมองเห็นแต่มลพิษ ในฤดูหนาวเวลาที่ไม่มีลม ฉันแทบมองไม่เห็นบ้านหลังข้าง ๆ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงต้องสูดหายใจอากาศแบบนี้ ในขณะที่พวกเขากำลังสร้างรายได้ [จากการขุดคริปโต]" เธอกล่าว
เมื่อสกุลเงินดิจิทัลและการขุดบิทคอยน์ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว หลายฝ่ายยังกังวลว่าอุตสาหกรรมการขุดคริปโตขนาดใหญ่จะนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนพลังงานในคาซัคสถาน
รัฐบาลระบุว่า การขุดคริปโตเพียง 1 ปี ทำให้อัตราการใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้น 7-8% โดยเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ทางการต้องนำเข้าไฟฟ้าจากรัสเซีย เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ และมีการจำกัดการใช้ไฟฟ้าในการขุดคริปโตในภูมิภาคที่ขาดแคลนไฟฟ้ามากที่สุด ส่งผลให้เหมืองบางแห่งต้องปิดทำการ หรือพยายามย้ายไปอยู่ที่อื่น
นายอัสคัต โอราซเบก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาดิจิทัล ยอมรับกับบีบีซีว่า ธุรกิจขุดคริปโตกำลังเติบโตเร็วเกินไป และจำเป็นต้องมีการควบคุม
ในเดือน ม.ค. 2022 รัฐบาลคาซัคสถานได้เรียกเก็บภาษีเพิ่มจากการใช้ไฟฟ้าของอุตสาหกรรมขุดคริปโต โดยหวังว่าจะนำรายได้ที่เพิ่มขึ้นไปใช้ในการสร้างแหล่งพลังงานที่สะอาดกว่าในอนาคต
คาซัคสถานเพิ่งจะฟื้นตัวจากเหตุไม่สงบจากการประท้วงรุนแรงเมื่อต้นเดือน ม.ค. 2022 หลังจากราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้นกะทันหัน
แม้จะไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการขุดคริปโต แต่เหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้นก็แสดงให้เห็นเรื่องสำคัญ 2 ประการ อย่างแรกคือจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า และอย่างที่สองคือ คาซัคสถานมีความสำคัญต่อโลกแห่งคริปโตอย่างไร
โดยตอนที่รัฐบาลคาซัคสถานตัดอินเทอร์เน็ตเป็นเวลา 5 วัน เครือข่ายบิทคอยน์โลกได้หยุดชะงักลง และทำให้ราคาบิทคอยน์ดิ่งลง นี่แสดงให้เห็นว่า การจัดการอุตสาหกรรมคริปโตของรัฐบาลมีเดิมพันสูงมากเพียงใด
ข้อมูลจาก BBC Thai
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
อีเธอเรียมประกาศเลิกขุดเหมือง หันไปใช้ เดอะ เมิร์จ ประหยัดพลังงาน 99%
-
คาซัคสถาน ขึ้นแท่น แหล่งขุดเงินดิจิทัลใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ
-
ธปท.หารือ ก.ล.ต.และกระทรวงการคลัง ประกาศห้ามใช้คริปโตฯ ซื้อสินค้าและบริการ
-
ลาวไฟเขียวแพลตฟอร์มเทรดสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี
-
กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ จับมือไบแนนซ์ ตั้งศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย
-
ซีอีโอ Binance บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโต เข้าทำเนียบมหาเศรษฐีโลก