ภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมา พื้นที่เท่ากรุงเทพฯ แตกตัวออกจากขั้วโลกใต้

                                             European Space Agency


นักวิทยาศาสตร์อังกฤษและยุโรปยืนยันว่า ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 1,550 ตร.กม. และมีความหนา 150 เมตร แตกออกจากชั้นน้ำแข็งบรันต์ของแอนตาร์กติกา หลังจากค้นพบรอยแตกมานานนับสิบปี

ภาพถ่ายดาวเทียมของคณะกรรมการวิจัยสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ (Natural Environment Research Council) เมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2023 ที่ผ่านมา เปิดเผยให้เห็นถึงภูเขาน้ำแข็งที่ขนาดยักษ์กำลังแตกตัวออกมาจาก "หิ้งน้ำแข็งบลันท์" (Brunt Ice Shelf) หิ้งน้ำแข็งที่มีความหนากว่า 150 เมตรในทวีปแอนตาร์กติกา หรือขั้วโลกใต้

ขณะที่ ทางทีมนักวิทยาศาสตร์จากหน่วยสำรวจแอนตาร์กติกอังกฤษ (British Antarctic Survey - BAS) กล่าวในรายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ภูเขาน้ำแข็งลูกนี้เพิ่งแตกตัวออกมานั้น เป็นผลกระทบมาจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์ในช่วงวันเพ็ญข้างขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นลมที่รุนแรงกว่าปกติ ไม่ได้มีต้นตอสาเหตุมาจากวิกฤตภาวะโลกร้อนแต่อย่างใด โดยนักวิทยาศาสตร์เรียกคลื่นในลักษณะนี้ว่า "คลื่นฤดูใบไม้ผลิ" ถึงแม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฤดูกาลก็ตาม

Brunt Ice Shelf เป็นที่ตั้งของสถานีวิจัย BAS  โดยนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ได้ค้นพบรอยร้าวบนหิ้งน้ำแข็งบลันท์ที่ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 แล้ว ซึ่งมีการสังเกตและจดบันทึกขนาดของรอยร้าวที่เกิดจากคลื่นลมอยู่เป็นประจำผ่านระบบเครือข่ายดาวเทียมสำรวจโลก ก่อนที่ต่อมาในปี 2016 ทีมนักวิทย์ก็ได้ย้ายแคมป์ที่พักออกไปไกลจากจุดที่พบรอยร้าวประมาณ 23 กิโลเมตร เนื่องจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัย

จนกระทั่งภูเขาน้ำแข็งได้แตกตัวออกมาจริง ๆ ซึ่งหน่วยสำรวจแอนตาร์กติกอังกฤษมีการคาดการณ์ขนาดไว้ที่ประมาณ 1,550 ตารางกิโลเมตร หรือ พอ ๆ กับขนาดพื้นที่ของจังหวัดกรุงเทพมหานคร (1,569 ตารางกิโลเมตร) เลยทีเดียว และกำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก บริเวณแถบทวีปอเมริกาใต้

                                             British Antarctic Survey


Ted Scambos นักวิทยาศาสตร์การวิจัยอาวุโสแห่งมหาวิทยาลัยโคโลราโด บอกกับ Washington Post ว่าภูเขาน้ำแข็งก้อนนี้ “เป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ " แต่มันไม่ใช่ภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีการบันทึกไว้

จากข้อมูลของ องค์การอวกาศยุโรป (ESA)ระบุว่า  ภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เรียกว่า A-76 นั้นมีขนาดประมาณ 4,320 ตารางกิโลเมตร

ทั้งนี้ ระดับน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกาไหลตลอดเวลา ตรงกันข้ามกับอาร์กติกที่หดตัว ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา น้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกาได้เปลี่ยนจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

“มีความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในทวีปแอนตาร์กติกากับแนวโน้มภาวะโลกร้อนทั่วไปในส่วนที่เหลือของโลก แต่มันแตกต่างจากสิ่งที่เราเห็นในธารน้ำแข็งบนภูเขาและสิ่งที่เราเห็นในแถบอาร์กติก” Scambos กล่าว

ข้อมูลดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าระหว่างปี 1978 ถึง 2014 ภูมิภาคนี้ยังคงผลิตน้ำแข็งในทะเลสูงเป็นประวัติการณ์จนกระทั่งมันลดลงอย่างกะทันหันในปี 2016 ระดับน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

การที่นักวิทยาศาสตร์สามารถแยกแยะภูเขาน้ำแข็งที่แตกตัวจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติกับภาวะโลกร้อนได้นั้น ถือว่าเป็นตัวชี้วัดความแม่นยำของเทคโนโลยีดาวเทียมในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

 

 ที่มา  thaipbs  ,  globalnews.ca