จีนเปิดเดินรถไฟหัวกระสุนฟู่ซิง ทนอากาศเย็นจัดที่สุดในเฮยหลงเจียง

A CR400BF-GZ Fuxing bullet train runs on a high-speed railway. (Photo/Yuan Yong) / Via en.people.cn


การรถไฟแห่งประเทศจีน เปิดเดินรถไฟหัวกระสุนฟู่ซิง ในภูมิภาคที่หนาวเย็นของประเทศแล้ว โดยรถไฟรุ่นนี้สามารถทนทานต่ออากาศเย็นจัดที่สุดในภูมิภาคทางเหนือของประเทศ

เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 19 ม.ค. รถไฟความเร็วสูง "ฟู่ซิง" ได้เดินทางออกจากนครฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รถไฟหัวกระสุนฟู่ซิงวิ่งให้บริการในเขตละติจูดสูงสุดและอุณหภูมิหนาวเย็นที่สุดของประเทศ

สวีโส่วเทา เจ้าหน้าที่บริษัท การรถไฟแห่งประเทศจีน สาขาฮาร์บิน จำกัด ระบุว่าการเดินรถเที่ยวดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในนวัตกรรมเทคโนโลยีทางรถไฟจีน โดยรถไฟความเร็วสูงฟู่ซิง รุ่นซีอาร์400บีเอฟ-จีแซด (CR400BF-GZ) เป็นรถไฟหัวกระสุนที่เร็ว ทนทานอากาศเย็นจัด และอัจฉริยะที่สุดในตระกูลฟู่ซิง

สวีกล่าวว่ารถไฟความเร็วสูงรุ่นนี้ซึ่งจีนออกแบบและผลิตเองโดยอิสระ มีความเร็วของการเดินรถอยู่ที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



                                             Photo/Yuan Yong / Via en.people.cn

มีฟังก์ชันป้องกันน้ำแข็งอัตโนมัติ ส่วนวัสดุและส่วนประกอบของขบวนรถได้รับการออกแบบให้ทนทานอุณหภูมิต่ำ ทำให้รถไฟสามารถวิ่งได้ตามปกติแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่หนาวจัดถึง -40 องศาเซลเซียส

ปัจจุบันเฮยหลงเจียงให้บริการรถไฟความเร็วสูงฟู่ซิง รุ่นซีอาร์400บีเอฟ-จีแซด จำนวน 2 ขบวน ก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อยกระดับกำลังการขนส่ง โดยบริษัทฯ คาดว่ารถไฟรุ่นเดียวกันอีก 4 ขบวนจะออกวิ่งให้บริการในเฮยหลงเจียงหลังช่วงเทศกาลตรุษจีน

ทั้งนี้ ทั้งนี้ หน่วยงานสภาพอากาศท้องถิ่นเมืองโม่เหอ มณฑลเฮยหลงเจียงทางตอนเหนือสุดของจีน มีรายงานระดับอุณหภูมิเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ม.ค. ลดลงอยู่ที่ -53 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และทำลายสถิติเดิม (-52.3 องศาเซลเซียส)

รายงานระบุว่าอุณหภูมิในเมืองโม่เหอลดต่ำอยู่ที่กว่า -50 องศาเซลเซียส ติดต่อกัน 3 วันแล้ว ขณะพื้นที่หลายแห่งบริเวณเทือกเขาต้าซิงอันหลิ่ง มีอากาศหนาวเย็นที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ หลังจากเฮยหลงเจียงกำลังเผชิญสภาพอากาศเย็นสุดขั้วระลอกใหม่ และในแต่ละปีเมืองโม่เหอปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะนานสูงสุด 8 เดือน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ราว -3 องศาเซลเซียส



 ที่มา  China Xinhua News