เตือน ระวังป่วยโรคไข้เลือดออก คาดว่าปีนี้ระบาดหนัก
1,257
เตือนภัยประชาชนระวังป่วยโรคป่วยโรคไข้เลือดออก เนื่องจากยุงลายเป็นตัวก่อโรค
เตือนภัยประชาชนระวังป่วยโรคป่วยโรคไข้เลือดออก เนื่องจากยุงลายเป็นตัวก่อโรค เผยช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก 2 ราย เนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้คิดว่าเป็นไข้เลือดออก จึงไปคลินิกหรือซื้อยามากินเอง ซึ่งหากเป็นยาในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) จะมีผลทำให้เลือดออกในช่องทางเดินอาหาร และเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ขอย้ำให้ทุกบ้านหมั่นสังเกตอาการ หากมีคนในบ้านป่วยมีไข้สูงลอยติดต่อกัน 2 วัน ให้นึกถึงทั้งโรคโควิด 19 หรืออาจเป็นไข้เลือดออก หากกินยาลดไข้แล้วอาการไม่ดีขึ้น อย่านิ่งนอนใจ ให้รีบพาไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องและป้องกันอาการป่วยรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอกจากโรคโควิด 19 ที่ประชาชนต้องระวังแล้ว ยังควรระวังโรคไข้เลือดออกอีกโรคหนึ่งด้วย เนื่องจากการคาดการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2565 นี้ คาดว่าจะกลับมาระบาดอีกครั้ง หลังจากที่เงียบหายไป 2 ปี ในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 เนื่องจากประชาชนอยู่บ้านไม่ได้มีกิจกรรมรวมตัวกัน แต่การกลับมาระบาดของโรคไข้เลือดออกในปีนี้ เกิดจากปัจจัยภูมิคุ้มกันหมู่ของประชาชนเริ่มต่ำลง โดยที่ภูมิต้านทานชั่วคราวที่เกิดจากการระบาดใหญ่ครั้งก่อนในประชาชนลดลง และสัญญานเตือนที่สำคัญคือ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมามีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเสียชีวิตแล้ว 2 ราย จุดสังเกตคือ ผู้ป่วยที่เสียชีวิตทั้งสองรายเป็นผู้ใหญ่อายุ 37 ปี และ 40 ปี เนื่องจากระยะแรกของอาการไข้ในผู้ใหญ่มักไม่ค่อยนึกถึงโรคนี้ คนป่วยซึ่งอยู่ในวัยทำงานมักไปรับการรักษาที่คลินิกหรือซื้อยามากินเอง และเมื่ออาการไม่เด่นชัดว่าเป็นไข้จากโรคอะไร มักได้รับยาที่ช่วยลดไข้ได้เร็ว ได้แก่ ยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) ซึ่งมีผลในการทำให้เลือดออกในทางเดินอาหาร และโดยเฉพาะยาไอบูโพรเฟน แอสไพริน หรือ ไดโครฟีแนก ยิ่งจะทำให้ให้เลือดออกรุนแรงและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ ซึ่งการใช้ยาลดไข้ ขอให้ใช้ยาพาราเซตามอลเป็นหลัก
ลักษณะอาการของโรคไข้เลือดออก คือ มีไข้สูงอย่างเฉียบพลัน และไข้จะสูงตลอดทั้งวันประมาณ 2-7 วัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ส่วนใหญ่มีอาการหน้าแดง อาจมีจุดแดงเล็กๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องและเบื่ออาหาร ต่อมาไข้จะลดลง ในระยะนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะอาจเกิดอาการรุนแรงอาจมีภาวะช็อคและเสียชีวิตได้ ขอให้ประชาชนสังเกตอาการป่วยของคนในครอบครัว หากมีไข้สูงลอยเกิน 2 วัน และเช็ดตัวหรือกินยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลดลง ขอให้คิดว่าอาจป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ให้รีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์หรือสถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ถูกต้องและรวดเร็ว หรือหากพบผู้ป่วยสงสัย ก็ให้รีบพาไปพบแพทย์เช่นเดียวกัน เพื่อประเมินอาการและเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจ โดยสามารถตรวจด้วยชุดตรวจแบบรวดเร็ว NS1 และแอนติบอดี้ (antigen-antibody test kit) ก็จะคัดกรองโรคไข้เลือดออกในเบื้องต้นได้เช่นกัน
ขอให้ทุกบ้านกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุกสัปดห์ ซึ่งเป็นวิธีการป้องกันโรคที่ได้ผลดีที่สุด ด้วยหลักการ 3 เก็บ เพื่อไม่ให้ยุงลายวางไข่
1) เก็บกวาดบ้านให้ปลอดโปร่ง ไม่มีบริเวณอับทึบให้ยุงลายเกาะพัก
2) เก็บขยะ เศษภาชนะทุกชนิดบริเวณรอบบ้าน ทิ้งในถุงดำ มัดปิดปากถุงแล้วนำไปทิ้งในถังขยะ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งขังน้ำให้ยุงวางไข่เพาะพันธุ์ได้
3) เก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะใส่น้ำกินน้ำใช้ให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะที่ไม่ใช้ และเปลี่ยนน้ำในภาชนะเล็กๆ เช่น ถ้วยรองขาตู้ หรือแจกันทุกสัปดาห์ ใส่ทรายกำจัดลูกน้ำหรือปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้ เช่น อ่างเลี้ยงไม้น้ำ เป็นต้น
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
วิธีสังเกต ไข้เลือดออก ภัยใกล้ตัวจากยุงลาย
ไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเตงกี และมียุงลายเป็นพาหะนำโรค พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ๋...
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงอย่างถูกวิธี รับมือไข้เลือดออกและมาลาเรีย
ยอดผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกและมาลาเรียเพิ่มอย่างต่อเนื่อง อย. แนะวิธีการเลือกซื้อ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไล่ย...
-
เก็บกวาดขจัดภัยร้าย หยุด ! ไข้เลือดออก
คาดว่าในช่วงนี้อาจพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นเพราะฝนตกทำให้มีขังน้ำตามภาชนะต่างๆ ซึ่งเป็นที่ที่...
-
วิธีสร้างเกราะภูมิคุ้มกัน 3 ชั้น ไข้เลือดออกในเด็ก
แนะภูมิคุ้มกัน 3 ชั้นเพื่อป้องกันไข้เลือดออก ...
-
เตือนเสี่ยงป่วยไข้ซิกา แนะใช้มาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค
โดยสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสซิกาในช่วงปี 2565 นี้มีตัวเลขที่สูงขึ้นกว่าปี 2564...
-
เฝ้าระวังไข้เลือดออก ยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค
แพทย์ห่วงหน้าฝนไข้เลือดออกระบาด แนะวิธีกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ...